ปัญหาผมแตกปลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่รบกวนจิตใจ ทำให้ขาดความมั่นใจมานักต่อนัก ซึ่งผมแตกปลายสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การทำสีผม การใช้สารเคมี หรือเส้นผมเผชิญกับความร้อนแบบหนักๆ แต่สาวๆ รู้ไหมว่า ลักษณะของผมที่แตกปลายนั้นมีหลายแบบด้วยกัน ตาม Hairworld+ มาเช็คอาการกันเลยว่า สภาพผมแบบไหน และควรรับมืออย่างไรดี
1.แตกปลายเล็กน้อย 2 แฉก หรือ Baby Spilt (Level ความพัง : เริ่มต้น)
ผมแตกปลายลักษณะนี้เกิดขึ้นได้จากเส้นผมขาดสารอาหาร โดยผมปลายผมจะแยกเป็น 2 แฉกเล็กน้อย ไม่เกิน 0.5 ซม. ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับเริ่มต้นไม่ร้ายแรง สามารถบำรุงรักษาได้ด้วยการใช้ครีมนวดผมทุกครั้งหลังสระ
2.ผมแตกปลายเป็นตัว Y หรือ Y Spilt (Level ความพัง : เริ่มต้น)
เป็นผมแตกปลายที่มีลักษณะแยกออกเป็น 2 แฉกเท่าๆ กัน คล้ายตัว Y มีความยาวช่วงที่แตกประมาณ 1 ซม. เกิดจากการที่ผมได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเช่นเดียวกับแบบแรก ถือว่ายังไม่รุนแรงเท่าไหร่ สามารถบำรุงให้ผมกลับมาสุขภาพดีได้เหมือนเดิมด้วยการใช้ครีมนวดผม หรือทานอาหารที่มีโปรตีนและโอเมก้า 3 เพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของเส้นผม
3.ปลายผมบางลง เหมือนโดนเฉือนออก หรือ Taper (Level ความพัง : ค่อนข้างแย่)
ผมแตกปลายลักษณะนี้มองเผินๆ คล้ายปลายผมโดนเฉือนออกไป เส้นผมจะมีขนาดเล็กลง เนื่องจากผมสูญเสียเซลล์หนังกำพร้าด้านนอก ทำให้ผมอ่อนแอ สาเหตุเกิดจากผมขาดสารอาหารหนักมาก วิธีดูแลคือ หมั่นเล็มปลายผมส่วนที่พังออกเดือนละ 1-2 ครั้ง ให้ความยาวอยู่ในช่วงที่เหมาะสม พร้อมบำรุงด้วยทรีทเมนต์กับครีมนวด เพื่อช่วยให้ผมกลับมาสุขภาพดี
4.ผมขดเป็นปม หรือ The Knot (Level ความพัง : กลางๆ)
ผมลักษณะนี้เป็นปัญหาที่ไม่ได้รุนแรงนัก เพียงแต่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับเส้นผมเส้นอื่นๆ ได้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดกับสาวๆ ที่มีสภาพผมหยิกงอ ซึ่งเมื่อผมพันกันเมื่อเราหวีผมก็อาจแตกขาดหลุดร่วงได้ง่าย สามารถบำรุงดูแลได้ด้วยการใช้ครีมนวดบำรุงที่เหมาะกับสภาพเส้นผม รวมไปถึงการหมักผมเป็นประจำด้วย
5.แตกแขนงเหมือนต้นไม้ หรือ Tree (Level ความพัง : อาการเข้าขั้นโคม่า)
ผมแตกปลายระดับนี้เรียกว่าเข้าขั้นโคม่าเลยทีเดียว เพราะเส้นผมจะแตกออกเป็นหลายปลายเหมือนแขนงต้นไม้ เกิดจากเส้นใยของเส้นผมเสียหายอย่างรุนแรง ผมแห้งกร้าน ไม่มีน้ำหนัก สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการถูกสารเคมี หรือพฤติกรรมที่ส่งเสริมให้เส้นผมยิ่งแห้งเสีย วิธีรับมือกับปัญหานี้คือ การตัดใจตัดปลายผมที่เสียหายทิ้งไปก่อน จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเส้นผมอย่างเร่งด่วน ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เติมอาหารให้กับเส้นผม และที่สำคัญต้องลดพฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายเส้นผมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำสี การยืด ดัด ย้อม รวมไปถึงการใช้เครื่องมือจัดแต่งผมที่ให้ความร้อนด้วย
6.แตกปลายหลายช่อแบบขนนก หรือ Feather (Level ความพัง : ยากเกินเยียวยา)
เส้นผมจะมีลักษณะแตกปลายเป็นส่วนย่อยๆ เหมือนขนนก เกิดจากเส้นใยของผมได้รับความเสียหายมาก หากไม่ตัดทิ้งอาจยิ่งทำให้ผมของเราแตกปลายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นทางที่ดีจึงควรเล็มปลายผมออก และควรบำรุงเส้นผมแบบจัดหนักทั้งการรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม ไปจนถึงการใช้ทรีทเมนต์หรือครีมหมักผมเพิ่มเติมด้วย
อาการของ ผมแตกปลาย เป็นสัญญาณเตือนว่าเส้นผมของเรากำลังอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาผมขาดหลุดร่วงตามมาได้ ฉะนั้นอย่าชะล่าใจมองข้ามปัญหาเล็กๆ อย่างผมแตกปลายเป็นอันขาด