จบดราม่า #กระชาวิกผมแพรี่ แบบไม่สวย ของสองคนดังโลกโซเชียลไปแล้ว เลยทำให้นึกถึงเรื่องของ ๐วิกผม๐ สิ่งจำเป็นของหลายคน และหลายเพศในยุคนี้ นอกจากเรื่องของแฟชั่น ความสวยงาม ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจอีกด้วย แต่ #รู้หรือไม่ วิกผมที่คิดค้นขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีจุดเริ่มต้นมาจากการใส่เพื่อปิดศีรษะล้านจากโรคซิฟิลิส และป้องกันเหา ที่สำคัญวิกผมคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้ผู้ชายใส่กัน? ไม่ใช่แฟชั่นเพื่อผู้หญิงอย่างที่เราเข้าใจกัน สงสัยแล้วใช่ไหมว่ามันเกี่ยวกันได้ยังไง? เรื่องนี้ต้องย้อนไปยังที่มาของวิกผมกันก่อน
วิกผม ถูกคิดค้นขึ้นในสมัยอียิปต์
ที่มาของวิกผมนั้น มีการค้นพบว่าชาวอียิปต์เป็นชนชาติแรกๆ ที่คิดค้นขึ้นมา โดยนำเส้นผมจริงของทาสหรือเชลยสงคราม จำนวนกว่า 120,000 เส้น ทอเป็นร่างแหและทำให้เกาะกลุ่มกันด้วยขี้ผึ้งหรือยางไม้ นอกจากเส้นผมจริงแล้วก็ยังมีการใช้ขนสัตว์และเส้นใยพืชด้วย สาเหตุที่ต้องใส่วิกก็เป็นเพราะสมัยนั้นสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากๆ ชาวอียิปต์โบราณจึงนิยมโกนหัวจนโล้นเพื่อตัดปัญหาเรื่องของการดูแลรักษา รวมทั้งป้องกันเหาและหมัดที่ระบาดหนักมาก วิกในยุคนั้นนอกจากถักทอจากเส้นผมแล้วยังมีการตกแต่งให้สวยงาม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ทางสังคม และความมั่งคั่งของผู้สวมใส่ด้วย
วิกผม สัญลักษณ์แสดงสถานะทางสังคมในศตวรรษที่ 16-18
ไม่ใช่แค่ชาวอียิปต์เท่านั้น ชาวกรีกและโรมัน โดยเฉพาะชนชั้นสูงก็นิยมใส่วิกผม เพื่อแสดงฐานะทางสังคม แต่วิกผมก็หมดความนิยมไปหลังจากจักรวรรดิโรมันล่มสลาย จนกระทั่งช่วงศตวรรษที่ 16 วิกผมกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในกลุ่มชนชั้นสูงในยุโรป โดยนำมาใช้เป็นสิ่งที่แสดงถึงสถานะและตำแหน่งขุนนางโดยตรง
วิกผมกลายเป็นแฟชั่นที่ฮิตมากๆ ในสมัยศตวรรษที่ 17 เนื่องจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส นิยมเรื่องแฟชั่นมาก และมักหาวิกผมปลอมมาใส่ ทำให้เหล่าขุนนางทำตามแฟชั่นนี้ และกลายเป็นการจุดกระแสแฟชั่นวิกผมขึ้นมาในกลุ่มผู้ชายชนชั้นสูงไปทั่วยุโรป ส่วนผู้หญิงนั้นยังคงใส่แค่แฮร์พีชเพื่อเพิ่มปริมาณผมให้หนาและจัดแต่งเป็นทรงต่างๆ ที่หรูหรา ยังไม่นิยมสวมวิกทั้งหัวเหมือนกลุ่มผู้ชาย
การสวมวิกของผู้ชายยังแพร่หลายจากฝรั่งเศสข้ามไปยังเกาะอังกฤษ เนื่องจากพระเจ้าชาลส์ ที่ 2 ที่มาหลบลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศสหลายปีนั้นมีศีรษะล้าน จึงต้องสวมวิกตลอดเวลา
ต่อมาก็ได้ถูกนำไปใช้เป็นประเพณีที่ผู้พิพากษาและทนายความของอังกฤษต้องสวมวิกผมในศาลยุติธรรม รวมทั้งหลายๆ ประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษด้วย
นอกจากวิกผมถูกนำมาใช้เป็นเครื่องบ่งบอกสถานะทางสังคมสมัยก่อนแล้วก็ยังมีบางทฤษฎีระบุว่า ผู้ชายสวมวิกเพราะเป็นโรคซิฟิลิส เนื่องจากเมื่อ 439 ปีที่ผ่านมา ในทวีปยุโรปมีการเกิดโรคซิฟิลิสระบาดอย่างหนัก ซึ่งโรคนี้มีผลทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมๆ รายที่อาการหนักผมก็จะร่วงจนหัวล้าน ทำให้เหล่าผู้ชายที่ฐานะร่ำรวยต่างหาซื้อวิก ซึ่งมีราคาแพงมาสวมใส่เพื่อปกปิดศีรษะของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม แฟชั่นวิกผมแบบหรูหราอลังการของเหล่าชนชั้นสูงก็หมดความนิยมไปช่วงต้นศตวรรษที่ 19 แต่วิกผมก็ยังได้รับความนิยมมาถึงปี 2023 ในเรื่องของแฟชั่นความงาม รวมทั้งการเสริมสร้างความมั่นใจของทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเพศทางเลือก รวมทั้งผู้ป่วยโรคมะเร็งอีกด้วย