“ช่างผม” เป็นกลุ่มอาชีพหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการถูกสั่งปิดร้านชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เราจึงได้เห็นการรวมตัวของกลุ่มช่างผมในนามของสมาคมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือกันในช่วงวิกฤตินี้ หนึ่งในนั้นก็คือ “สมาคมช่างผมมืออาชีพแห่งประเทศไทย” ซึ่งมี “อาจารย์ปู-กุลิสรา พานิช“ เจ้าของสถาบันสอนเสริมสวยครบวงจร Indy Hair Design Academy ที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “อ.ปู ครูอินดี้” เพิ่งก้าวเข้ามารับตำแหน่งแบบสดๆ ร้อนๆ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การรับหน้าที่นายกสมาคมฯ ในยุคโควิดเช่นนี้จะมีความท้าทายแค่ไหน และสมาคมฯ มีบทบาทช่วยเหลือเหล่าช่างผมอย่างไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย

บทบาทของสมาคมช่างผมมืออาชีพฯ
สมาคมของเราก่อตั้งมาได้ 4 ปีแล้ว ไม่ได้เก็บค่าสมาชิก ไม่ได้หวังผลอะไร เน้นเรื่องการทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม เพื่อช่างผมจริงๆ เช่น การจัดสัมมนา กิจกรรมตัดผมต่างๆ สำหรับตัวอาจารย์เองเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ช่วงที่เกิดวิกฤติโควิดพอดี เรียกว่าเป็นนายกฯ โควิดก็ว่าได้
ช่วงที่ต้องปิดร้าน สมาชิกในสมาคมฯ ได้รับผลกระทบอะไรบ้าง
ช่างผมส่วนใหญ่ที่อยู่ในสมาคมฯ ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต จะอยู่ในระดับรากหญ้า เมื่อเกิดวิกฤติที่ไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ ปัญหาใหญ่ๆ เลยก็คือเรื่องค่าเช่าร้าน และค่าใช้จ่ายต่างๆ พอปิดร้านรายได้ก็เป็นศูนย์ มีหลายร้านที่ต้องปิดไปเลย เพราะหาค่าเช่ามาจ่ายให้ไม่ได้ หลายคนต้องอดๆ ยากๆ เพราะไม่มีเงินเก็บ แต่ส่วนตัวของอาจารย์เองอาจจะไม่ได้มีปัญหามากนัก เพราะพื้นฐานไม่ได้ร่ำรวย เจอเหตุการณ์ลำบากในชีวิตมาหลายครั้ง ก็เหมือนกับเรามีประสบการณ์ และเตรียมตัวไว้ตลอดเวลา
ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมฯ ได้ช่วยเหลือสมาชิกอย่างไร
หลังจากรู้ข่าวร้านทำผมถูกสั่งปิดชั่วคราว สิ่งแรกที่เราทำก็คือ ตั้งสติ และคิดว่าช่างผมมีผลกระทบอะไรบ้าง จากนั้นเราก็เริ่มแก้ปัญหาโดยทำให้สมาชิกเห็นเป็นตัวอย่าง ตั้งแต่การเจรจากับเจ้าของพื้นที่เพื่อลดค่าเช่า หาอาชีพเสริมทำ อย่างตัวอาจารย์เองก็ขายไก่ทอด แล้วแจกสูตรให้สมาชิกที่อยากหารายได้เสริม โดยเราได้ใช้ช่องทางเฟซบุ๊กสร้างกลุ่มช่างผมเพื่อแบ่งปันและแนะแนวทางต่างๆ เท่าที่เราทำได้ แต่ก็จะมีช่างผมบางคนที่ไม่มีเงินจริงๆ หรือคุณแม่ป่วย หรือโดนไล่ที เราก็ช่วยโดยโอนเงินตัวส่วนช่วยเหลือกันไปก่อน
และที่ผ่านมาก็ได้รายชื่อสมาชิกสมาคมฯ กว่า 5,000 คน ไปยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรณีที่ต้องปิดร้านทำผมชั่วคราว และกรณีลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ผ่านเว็บไซต์ “เราไม่ทิ้งกัน” แต่ได้รับการปฏิเสธว่าเป็นเกษตรกร หรือ บางคนเป็นนักศึกษา ซึ่งในวันนั้นก็มีนักข่าวไปทำข่าวหลายช่องมากๆ หลังจากนั้นก็มีสำนักข่าวติดต่อไปออกรายการ ไปสัมภาษณ์หลายช่องมากๆ ก็ทำให้ภาครัฐ และหลายๆ ฝ่ายรับรู้ความเดือดร้อนของช่างผมมากขึ้น ตอนนี้ช่างผมในสมาคมฯ ก็ได้รับเงินเยียวยาไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ปัญหาความเดือดร้อนก็เริ่มเบาลง ช่างผมมีความสุขกันมากขึ้น และวันนี้ร้านเปิดได้แล้วช่างผมก็ดีใจมาก เพราะจะได้ทำมาหากินด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องไปขอหรือรอรับเงินจากใครแล้ว
คิดเห็นยังไงกับมาตรการเยียวยาของรัฐบาล
ในเรื่องของเงินเยียวยาถึงแม้จะล่าช้านิดนึงก็ไม่เป็นไร ช่างผมเรารอได้ เพราะเข้าใจสถานการณ์ดี โควิดเป็นโรคที่ร้ายแรงจริงๆ และแพร่กระจายเร็วมาก วันนี้ช่างผมส่วนใหญ่ได้รับเงินเยียวยา และปลดล็อกให้ช่างผมได้ทำมาหากิน ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ส่วนมาตรการด้านสาธารณสุขต่างๆ ก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี ต้องบอกว่ามันเป็น New Normal เลยนะ เชื่อว่าในอนาคตต้องมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องของความปลอดภัย ความสะอาดในร้าน และร้านทำผมจะระบบการจัดการต่างๆ มากขึ้น อย่างเรื่องของการทำความสะอาดร้าน จริงๆ แล้วร้านเสริมสวย ควรจะต้องสะอาดแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เราอาจมองข้ามหรือปล่อยปละละเลย พอมาวันนี้เราได้เริ่มทำก็น่าจะเกิดความเคยชิน หรืออย่างเรื่องของการนัดคิวลูกค้า ก็จะทำให้ร้านทำผมรู้จักเรื่องของการจัดการระบบภายในร้านได้ดีขึ้นด้วย
อยากบอกอะไรถึงรัฐบาล
เชื่อว่ารัฐบาลและหลายหน่วยงานต่างก็เหนื่อยกับการแก้ไขปัญหาพอสมควร เพราะเราไม่ได้มองแค่มุมของช่างผมอย่างเดียว หลายๆ อาชีพก็เดือดร้อนเช่นกัน บางอาชีพยังไม่ได้เปิดเลยด้วยซ้ำ ก็น่าเห็นใจนะคะ เราก็อยากให้กำลังใจภาครัฐ ต้องขอขอบคุณที่ปลดล็อกให้ช่างผม และหลายๆ อาชีพ เพื่อทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป ให้ทุกคนได้ทำมาหากินโดยที่ไม่ต้องไปเรียกร้อง ส่วนเรื่องเงินเยียวยา เราก็เชื่อว่ารัฐบาลใช้เงินในส่วนนี้ค่อนข้างเยอะแล้ว แต่ก็อยากฝากถึงภาครัฐว่าให้จ่ายเงินเยียวยาให้ได้ครบทุกคน ทุกอาชีพ ไม่ใช่เฉพาะช่างผม
คิดว่าโควิดสอนอะไรช่างผมบ้าง
วิกฤตินี้เป็นเหตุการณ์ที่ใหม่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ก็ได้สอนให้ช่างผมรู้จักการเตรียมตัว และการวางแผนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน เรื่องงาน และรู้จักการใช้ชีวิต
อยากฝากอะไรถึงพี่น้องช่างผม
การเปิดร้านในช่วงโควิดแบบนี้อาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งช่างผมแต่ละคนมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน ก็อยากให้รู้จักปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง ที่สำคัญเลยก็คือขอให้ดูแลตัวเองให้ดี ไม่ต้องรับลูกค้าเยอะ เอาแค่พออยู่พอกิน พอจ่ายค่าเช่า ที่สำคัญต้องดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี เน้นในเรื่องฝีมือ ทำให้ดีที่สุด ลูกค้าจะได้รักเราและมาทำผมที่ร้านเราอีก และอีกเรื่องที่ฝากไว้คือ อยากให้คิดเผื่อเรื่องอาชีพเสริมหรืออาชีพรอง เช่น ขายอาหาร ขายของออนไลน์ หรือทำอะไรเพิ่มเติมมากกว่าการตัดผมได้ไหม เพราะถ้าวันนึงข้างหน้าเกิดเหตุการณ์ที่ช่างผมต้องสะดุดแบบนี้อีก เราจะได้มีหลายช่องทางในการหาเงิน