ช่วงนี้ไม่ว่าจะนอกบ้านหรือภายในร้านหรือในบ้านของเราล้วนมีสารพิษมากมายนะคะ อย่างภายในบ้านเราไม่ว่าจะเป็นพวกน้ำยาต่างๆ สารเคมีทำผม หรือจะเป็นเตาแก๊ส สีทาบ้าน ผ้าม้าน ควันบุหรี่ การปลูกต้นไม้ดูดสารพิษสามารถช่วยเราได้มากเลยละค่ะ แต่หลักของการวางต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน คือต้องเลือกวางในตำแหน่งที่มีแสงส่องถึงเพื่อให้กระบวนการฟอกอากาศของต้นไม้เต็มประสิทธิผล ไม่ว่าจะเป็นการคายน้ำ ดูดซึมน้ำ หรือดูดอากาศ และกระบวนการสังเคราะห์ก็ล้วนแต่ต้องใช้แสงแดดเป็นส่วนสำคัญ ส่วนระยะในการวางนั้น ให้คำนึงไว้ว่า เขตการหายใจของคนเราจะใช้พื้นที่ประมาณประมาณ 0.17-0.23 ลูกบาศก์เมตร หากวางต้นไม้ในเขตหายใจ ต้นไม้จะช่วยฟอกอากาศพิษจากร่างกายมนุษย์ได้ด้วยนะคะ
ส่วนหลายคนสงสัย สำหรับการวางต้นไม้ในห้องนอน ซึ่งเป็นห้องที่เราต้องใช้ในตอนกลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่ต้นไม้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมานั้น แต่มีต้นไม้อยู่หลายชนิดที่คายก๊าซคาร์บอนฯในตอนกลางวันแล้วปล่อยออกซิเจนในตอนกลางคืน เช่น ลิ้นมังกร ว่านหางจระเข้ จึงเหมาะที่จะว่างอยู่ในตำแหน่งใกล้เตียงนอน แต่หากเป็นต้นไม้ชนิดอื่นสามารถวางในห้องนอนได้เช่นกันแต่ต้องมีระยะห่างให้พ้นกับเขตหายใจเท่านี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วละค่ะ
นี้คือตัวอย่างสารพิษในบ้าน
Cr: บ้านและสวน
มาดูต้นไม้ที่หาซื้อได้แถวบ้านและดูดสานพิษภายในบ้านได้กันค่ะ
1.ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm) คายความชื้นได้มาก มีความสามารถสูงในการดูดสารพิษที่ปนเปื้อนในอากาศ โดยเฉพาะสารพิษทั้ง 3 เบนซีน ไตรคลอโรเอทิลีน และฟอร์มัลดิไฮด์
2.พลูด่าง (Golden pothos) ปลูกง่าย ราคาถูก จากการทดลองหลังเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง พบว่าพลูด่างสามารถลดเบนซีนได้ถึง 73.2 % ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์75% และยังคายความชื้นในอากาศได้ดีมาก
3.เศรษฐีเรือนใน (Spider plants) คนไทยนิยมปลูกในบ้านมานานแล้ว เศรษฐีเรือนในสามารถดูดคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ 96% และฟอร์มัลดีไฮด์ ได้ถึง 86%) ดูแลไม่ยาก มีขนาดไม่ใหญ่สามารถวางไว้บนโต๊ะ ริมหน้าต่าง หรือแขวนในที่แดดส่องถึงก็ได้ รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
4.เดหลี (Peace Lily) มีขายในแทบทุกร้าน เป็นพืชที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยม แถมยังฟอกอากาศได้ดีมากเช่นกัน ดูดซับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากลมหายใจคน และปล่อยแก๊สออกซิเจนออกมาแทนที่แต่ในเฉพาะตอนกลางวันนะคะห้าเอาไว้หัวเตียง
5.ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) พืชอวบน้ำที่พบได้ทั่วไป ว่านหางจระเข้ นอกจากมีสรรพคุณเรื่องการลดบวม สานมแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกแล้ว ยังสามารถดูดซับฟอร์มัลดีไฮด์ที่ความเข้มข้นต่ำได้ดี แถมยังไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาใบร่วงอีกด้วย วิธีดูแลไม่ยุ่งยาก แค่วางไว้ที่แสงแดดส่องถึง และรดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
6.ลิ้นมังกร (Mother-in Law’s Tongue, Snake plants) เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในเมืองไทยว่า ช่วยฟอกอากาศและเพิ่มปริมาณออกซิเจนในอาคาร และมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษได้ทั้ง FM, TCE และเบนซีน และสำหรับที่เราบอกไปว่าจะมีพืชบางชนิดที่สามารถนำมาไว้ใกล้หัวเตียงได้นั้นก็คือลิ้นมังกร เพราะมันจะคายคาร์บอนไดออกไซด์ตอนกลางวันและคายออกซิเจนออกมาในตอนกลางคืน แถมยังดูดซับมลพิษได้อีกจะปลูกในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ เพราะเป็นต้นไม้ที่อยู่ได้หลากหลายสภาพอากาศ เพียงแค่ให้โดนแดดบ้าง และรดน้ำทุกวัน
7.มอนสเตร่า Monstera ต้นไม้ฮิปสเตอร์ มีชื่อไทยว่าพลูฉีกหรือพลแฉก พบเจอได้ตามคาเฟ ด้วยใบที่ใหญ่และมีลายฉลุสวยงามเหมือนจับตัดแต่งจึงเป็นที่นิยม เพิ่มความเก่ให้บ้าน มอนสเตร่า ปลูกในบ้านได้เพราะอากาศใกล้เคียงกับถิ่นกำเนิด นั่นคือเขตร้อนชื้น เพียงแค่ตั้งไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงแดด ถ้าแดดแรงเกินไปใบเขียวๆ อาจจะไหม้ได้นะคะต้องระวัง รดน้ำวันละครั้ง แต่ไม่ควรให้ชุ่มจนเกินไป อาจผสมกาบมะพร้าวในดินเพื่อรักษาความชื้นด้วยยิ่งดีค่ะ
8.เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern) อีกหนึ่งต้นไม้ที่นิยมปลูกในบ้านคือเฟิร์น เพราะมีขนาดไม่ใหญ่ สามารถวางประดับได้หลายมุมของบ้าน เฟิร์นบอสตันมีใบย่อยเล็กๆ เรียงกันเป็นใบยาว สีเขียวสด ลักษณะเป็นพุ่ม นิยมปลูกในกระถางแขวนวางไว่ในบริเวณที่โดนแดดช่วงเช้า หรือมีแสงรำไรตลอดวัน รดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพราะเฟิร์นชอบความชื้น อย่าลืมตัดใบที่แห้งเหี่ยวออกเพื่อให้งอกใบใหม่ และป้องกันการเกิดโรคในพืช
ใครที่สนใจปลูกต้นไม้ที่มีคุณสมบัติดี รีบ ชวนคนในครอบครัวแวะไปเดินเล่นซื้อหาต้นไม้ตามตลาดใกล้บ้านกันนะคะ มาทำให้บ้านสดชื่น ปลอดสารพิษ สุขภาพดีด้วยกัน และเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการสูดอากาศขึ้นอีกหน่อย