กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบไปทั่ว สำหรับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID19 ทุกอาชีพ ทุกธุรกิจ ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้าไม่เว้นแม้แต่ “ช่างทำผม” ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องให้บริการลูกค้าหลากหลายอาชีพ และไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกค้าแต่ละคนจะเป็นกลุ่มเสี่ยงนำเชื้อโรคต่างๆ มาแพร่ระบาดในร้านของเราหรือไม่ เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวช่างทำผมเอง “หน้ากากอนามัย” จึงเป็นสิ่งจำเป็น รวมไปถึงพนักงานทุกคนในร้านทำผมก็ควรใส่เช่นกัน
แต่การจะใส่หน้ากากอนามัยให้สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ ก็ต้องเริ่มจากการเลือกซื้อทเลือกใช้ให้เหมาะกับการใช้งาน รวมทั้งใส่ให้ถูกวิธีด้วย ในปัจจุบันหน้ากากอนามัยแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท ดังนี้
- N95 เป็นหน้ากากอนามัยที่ดีที่สุดราคาค่อนข้างสูง ป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง และเกสรดอกไม้ได้ดี
- หน้ากากทางการแพทย์ เป็นหน้ากากอนามัยที่ร้านซาลอนระดับมาตรฐานเลือกซื้อมาใช้งานอยู่แล้ว ถือว่าเป็นหน้ากากอนามัยที่ป้องกันได้เป็นอย่างดีรองลงมาจาก N95
- FFP1 ประสิทธิภาพเทียบเท่า N95 ราคาค่อนข้างสูง
- หน้ากากคาร์บอน กันเชื้อโรคต่างๆ ได้บ้าง แต่ไม่สามารถกันเชื้อไวรัสได้
- หน้ากากกันฝุ่นทั่วไป ก็จะป้องกันฝุ่นและเกสรดอกไม้เท่านั้น ไม่สามารถกันเชื้อโรคต่างๆ ได้
- หน้ากากอนามัยแบบฟองน้ำ ไม่สามารถกันเชื้อโรคได้เลย กันฝุ่นและเกสรดอกไม้ได้นิดหน่อย
ในช่วงที่หน้ากากอนามัยเริ่มขาดแคลน หาซื้อได้ยาก หน้ากากอนามัยแบบผ้าชนิดต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนยืนยันได้ว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากน้อยขนาดไหน แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ใส่เลย และเมื่อเรารู้จักประเภทของหน้ากากอนามัยแล้ว มาสำรวจตัวเองกันว่าใส่ถูกวิธีแล้วหรือยัง
วิธีการใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี
- เลือกหน้ากากอนามัยให้มีขนาดพอดีกับใบหน้า ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป
- ก่อนใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ควรล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ
- หันด้านสีเข้มหรือมันวาวออกด้านนอก ให้ขอบที่มีลวดอยู่ด้านบนสันจมูก
- คลี่รอยจีบออกคลุมทั้งจมูกจนถึงปลายคาง
- คล้องสายกับใบหูหรือผูกให้แน่น แล้วปรับสายคล้องหูให้พอดีกับใบหน้า
- ให้รอยจีบพับลงอยู่ด้านหน้า จากนั้นดัดลวดให้แนบสนิทกับใบหน้าของผู้สวมใส่ อย่าให้มีช่องว่างระหว่างใบหน้ากับหน้ากากอนามัย
- ห้ามนำมือไปจับบริเวณด้านนอกหน้ากาก เพราะอาจมีเชื้อโรคติดอยู่ ล้างมือให้สะอาดหลังจาก ถอด/ทิ้ง หน้ากาก
- ในกรณีที่เป็นหน้ากากชนิดผ้า สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยการนำไปซักกับผงซักฟอกและตากแดดให้แห้งก่อนนำมาใช้ซ้ำ แต่หากเป็นชนิดกระดาษควรเปลี่ยนทุกวัน
อีกเรื่องที่สำคัญ และไม่ควรมองข้ามก็คือ หลังจากเลิกใช้หรือเปลี่ยนหน้ากาก ก็ต้องทำให้ถูกวิธีเช่นกัน เพื่อไม่เป็นการแพร่เชื้อต่อๆ ไป
ซึ่งวิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธีและปลอดภัยมี 7 ขั้นตอน ดังนี้
- ถอดหน้ากากอนามัยออกด้วยการจับที่เชือกคล้องหู โดยไม่สัมผัสด้านใน หากใส่หน้ากากอนามัยในกรณีที่ป่วย หรือถอดหน้ากากอนามัยออกโดยไม่สัมผัสด้านนอกในกรณีที่ใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากผู้อื่น
- จับที่ขอบแล้วพับครึ่งในกรณีป่วย ให้ด้านที่สัมผัสหน้าอยู่ข้างใน หากใส่เพื่อป้องกันให้ด้านสีเข้มอยู่ข้างใน
- จับที่ขอบแล้วพับครึ่งอีกครั้ง
- พับครึ่งอีกหนึ่งทบให้เชือกทั้งสองฝั่งอยู่ด้านเดียวกัน
- ใช้เชือกคล้องหูรัดมัดให้แน่น
- ใส่ถุงพลาสติก หรือห่อกระดาษให้มิดชิดและนำไปทิ้งขยะ
- ล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลล้างมือหลังทิ้งหน้ากากอนามัย
เพียงแค่เราใส่ใจสุขภาพ ป้องกันตัวเอง และใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโควิด-19 และดูแลตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมช่วยดูแลสังคมด้วยการทิ้งกากหน้าอนามัยใช้แล้วให้ถูกวิธีด้วยนะคะ