ในการทำธุรกิจร้านซาลอนให้ประสบความสำเร็จ นอกจากการตกแต่งร้านให้สวยโดดเด่น มีช่างทำผมฝีมือดี และบริการที่ประทับใจแล้ว เรื่องความสะอาดก็สำคัญไม่แพ้กัน มาดูวิธีการดูแลสภาพแวดล้อม รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในซาลอนให้สะอาด ปราศจากเชื้อโรค จากอาจารย์ดุสิตา ศุภผลา นักเขียนรับเชิญกิตติมศักดิ์ประจำคอลัมน์ Pro.Skills นิตยสาร Hairworld Plus+ กันค่ะ
การดูแลเครื่องมือเครื่องใช้ในร้านเสริมสวย
อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในสถานบริการเสริมสวย-แต่งผม จะพูดโดยรวมๆ ทั้งร้านตัดผมชายและตัดผมหญิง ซึ่งในตอนที่แล้วเราได้พูดถึงการจัดเตรียมสถานที่ หรือสถานประกอบการให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสาธารณสุข ในตอนนี้ก็จะพูดถึงอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการแต่งผม เสริมสวย ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำงาน เนื่องจากเป็นสิ่งที่ต้องใช้ร่วมกันของผู้มารับบริการ ดังนั้น อุปกรณ์เหล่านี้จึงมีโอกาสเป็นสื่อกลางการแพร่กระจายของเชื้อโรคติดต่อต่างๆ ได้ หากผู้ประกอบการไม่มีการควบคุม ดูแล ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำ
- เก้าอี้ตัดผม เก้าอี้ตัดผมที่ดีต้องนั่งสบาย ไม่ปวดหลัง ทำด้วยวัสดุคงทน เช่น ไม้ วัสดุเคลือบสแตนเลส มีความแข็งแรง ไม่ชำรุด มีสภาพปลอดภัย ไม่มีคราบสกปรก และต้องทำความสะอาดหลังเสร็จงานทุกวัน
- อ่างสระผม เตียงสระผม
– อ่างสระผมต้องอยู่ในสภาพดี สะอาด ทำจากวัสดุที่คงทน แข็งแรง ไม่เป็นสนิม เช่น สแตนเลส พลาสติกแข็ง เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องมีการทำความสะอาดหลังจากใช้งานเป็นประจำ เพื่อไม่ให้มีคราบสกปรก และการเปรอะเปื้อนของน้ำยา หรือสารเคมี
– เตียงสระผมต้องปรับระดับให้พอเหมาะ โดยไม่ทำให้ผู้รับบริการเกิดอาการเกร็ง ปวดหรือเมื่อย และต้องอยู่ในสภาพดี สะอาด แข็งแรง เบาะที่นอนต้องไม่ชำรุด รวมทั้งไม่มีกลิ่นเหม็นอับด้วย
- 3. ผ้ายางสำหรับรองคอขณะสระผม ต้องทำความสะอาดหลังจากใช้งานทุกครั้ง และเมื่อเสร็จสิ้นจากการให้บริการในแต่ละวัน ต้องนำมาตากให้แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ
- เครื่องใช้ประเภทผ้า แบ่งตามลักษณะการใช้ ดังนี้
- 1. เสื้อคลุมของช่างแต่งผม เสริมสวย เป็นเสื้อมีแขน สีขาวหรือสีอ่อน สะอาด ควรจะมีชุดสำรองสำหรับเปลี่ยนอย่างน้อย 2 ชุดต่อคน ให้ใส่ทุกครั้งขณะปฏิบัติงาน โดยไม่ใช้ปะปนกัน ต้องซักทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันหลังเลิกงาน
- ผ้าปิดปากและจมูกสำหรับช่าง ต้องเป็นผ้าสีขาวสะอาด ให้ใส่ทุกครั้งขณะปฏิบัติงาน โดยไม่ใช้ปะปนกัน ให้ซักทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันหลังเลิกงาน
- ผ้าคลุมตัวลูกค้า ควรเป็นสีขาวหรือสีอ่อน สะอาด มีชุดสำรองสำหรับเปลี่ยนอย่างน้อย 2 ชุด/เก้าอี้ตัดผม ให้ซักทำความสะอาดเป็นประจำทุกวันหลังเลิกงาน
- ผ้าพันคอ ผ้าเช็ดหน้า และผ้าเช็ดผม ต้องเป็นผ้าที่สะอาด ใช้สำหรับลูกค้าแต่ละคน ให้ซักทำความสะอาด หรือแช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกวันหลังเลิกงาน ตากให้แห้ง แล้วนำมาเก็บให้มิดชิด
- ผ้ายาง และผ้าพลาสติกคลุมไหล่ ต้องทําความสะอาดด้วยผงซักฟอก หรือสารซักล้างเป็นประจำ ตากให้แห้ง เพื่อไม่ให้มีกลิ่นอับชื้น ก่อนนำมาจัดเก็บให้เรียบร้อย และต้องมีชุดสำรองสำหรับเปลี่ยน อย่างน้อย 2 ชุด
- 5. เครื่องใช้ประเภทโลหะ เช่น กรรไกรตัดผม ที่ตัดเล็บ ใบมีดโกน หวีซอย ที่แคะหู ที่แคะเล็บ ต้องอยู่ในสภาพดี ไม่ขึ้นสนิม ไม่ชำรุด และต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ดังกล่าวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพ หรืออบในตู้อบฆ่าเชื้อโรค เป็นประจำหลังใช้งานในแต่ละวัน สำหรับใบมีดโกน ให้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ห้ามนำมาใช้ซ้ำโดยเด็ดขาด หลังใช้แล้วให้ทิ้งลงในภาชนะหรือถังรองรับที่แยกเฉพาะที่มีป้ายแสดงชัดเจน เช่น “ใบมีดโกนใช้แล้ว” หรือ “อันตราย ใบมีดโกนใช้แล้ว” เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องมีระบบการรวบรวมทั้งที่มีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน
- 6. เครื่องใช้ประเภทพลาสติก เช่น หวี แปรง ที่ม้วนผม หมวกคลุมผม ต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังมีการใช้งานให้แก่ลูกค้าในแต่ละราย และขจัดคราบไขมันต่างๆ ด้วยผงซักฟอก และแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพ นำมาพึ่งให้แห้งแล้วนำกลับมาใช้งานใหม่
- 7. เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม เครื่องอบไอน้ำ ปัตตาเลี่ยน อุปกรณ์เหล่านี้ผู้ประกอบการต้องมีการเฝ้าระวัง ดังนี้ ทำความสะอาดเครื่องมือให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ตรวจตราสายไฟอย่างสม่ำเสมอไม่ให้ชำรุด หรือมีรอยฉีกขาด หลังใช้งานให้จัดเก็บม้วนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขณะทำงาน และควรถอดปลั๊กออกทุกครั้งหลังเลิกงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้ารั่ว
เมื่อเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม ตัวช่างก็ต้องพร้อมเช่นกัน ช่างจึงต้องดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองให้แข็งแรง และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ควรปฏิบัติดังนี้
- ช่างและผู้ช่วยช่างต้องมีการตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และมีใบรับรองแพทย์
- ช่างและผู้ช่วยช่างต้องมีสุขอนามัยที่ดี กรณีเป็นโรคติดต่อ ห้ามปฏิบัติงานจนกว่าจะได้รับการรักษาให้เป็นปกติ
- ในขณะที่ให้บริการลูกค้าต้องสวมเสื้อคลุมตัว และใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก ทุกครั้งเพื่อป้องกันการหกรั่วไหลของสารเคมี เศษผมติดเสื้อผ้า และป้องกันการปนเปื้อน ไปสู่ลูกค้าผู้มาใช้บริการ
- ช่างและผู้ช่วยช่างต้องล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังการให้บริการ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากบุคคลหนึ่งไปสู่บุคคลอื่น
- ผู้ปฏิบัติงานควรได้รับการอบรมจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือหน่วยงานในภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องการจัดการสุขาภิบาลร้านแต่งผม-เสริมสวย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง
Credit : นิตยสาร Hairworld Plus+ Issue 30, คอลัมน์ Pro.Skills โดย อาจารย์ดุสิตา ศุภผลา