ความหลงใหลในวิชาชีพของช่างผมคนหนึ่งต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง? การฝึกฝีมือ, ได้รับความนิยมจากลูกค้า, ได้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ หรือได้ลงเวทีแข่งขันทำผม? คุณเมย์-สยุมพร สิงห์ทอง Hairstylist ที่ขึ้นแท่นช่างผมคิวทองแห่งร้าน McoutureStudio81 เชียงใหม่ คือผู้หญิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ เธอเป็น Technician ให้กับแบรนด์ดังระดับโลก, เป็นเจ้าของร้านทำผมสุดพิเศษที่ให้บริการวันละคนเท่านั้น อีกทั้งยังมีลูกค้ายอมตีตั๋วเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพียงเพื่อที่จะได้ทำผม และเธอยังได้มีโอกาสแสดงผลงานไกลถึงต่างประเทศอีกด้วย ดีกรีขนาดนี้ชีวิตส่วนตัวของเธอจะเป็นแบบไหน เรามาร่วมพูดคุยไปพร้อมกัน
HW+ : จุดเริ่มต้นของการทำผม?
เริ่มทำผมตอนอายุ 20 กว่าแล้วค่ะ ตอนนั้นแต่งงานและมีลูกแล้วนะคะ ก็เลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ตอนเริ่มแรกที่เรียนทำผมมันยังไม่ใช่ความชอบ แต่เป็นครอบครัว คือสามีเป็นคนที่มีหน้าที่การงานค่อนข้างดี แต่ตัวเมย์เองเรียนจบไม่สูง ดังนั้นเราเลยมีแรงกดดันในใจว่าอยากจะขยับตัวเองให้ไปอยู่ในจุดเดียวกับเขา อยากให้เขาภูมิใจเวลาพูดให้เพื่อนๆ ฟัง ก็เลยคิดว่าสู้เรียนให้จบอะไรซักอย่างดีกว่า ญาติก็แนะนำว่าให้ไปเรียนเสริมสวยเลยไปลงคอร์ส 8 เดือนที่โรงเรียนเสริมสวยเกศสยาม แต่กว่าที่จะเรียนจบจริงๆ ก็ใช้เวลาไป 4 ปีเลย
HW+ : เริ่มประกอบอาชีพช่างผม?
หลังเรียนจบก็ไปเป็นช่างสระ-ไดร์อย่างเดียวเลย 1 ปีเต็ม ไม่ได้ทำอะไรเลย ยืนขาแข็งสระ-ไดร์ตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 1 ทุ่ม จากนั้นก็ย้ายกลับไปอยู่เชียงใหม่แล้วเปิดร้านเล็กๆ ที่บ้านค่ะ
“ตอนเริ่มแรกที่เรียนทำผมมันยังไม่ใช่ความชอบ แต่เป็นครอบครัว คือสามีเป็นคนที่มีหน้าที่การงานค่อนข้างดี แต่ตัวเมย์เองเรียนจบไม่สูง ดังนั้นเราเลยมีแรงกดดันในใจว่าอยากจะขยับตัวเองให้ไปอยู่ในจุดเดียวกับเขา”
HW+ : เป็น Technician ได้อย่างไร?
เริ่มตั้งแต่ตอนกลับไปเปิดร้านที่เชียงใหม่ พอมีร้านก็มีโอกาสได้เข้าไปฝึกอบรมกับแบรนด์ต่างๆ เวลาเข้าไปนั่งอบรมก็จะมี Technician ยืนอยู่แล้วเราเข้าไปนั่งเรียนมันก็เหมือนกับจุดประกาย คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นคนที่ไปยืนอยู่ตรงนั้นให้ได้ เลยส่งผลงานของตัวเองเข้าประกวดเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว แล้วก็ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน พอทำได้ 2 ปีก็มีแบรนด์นำเข้าใหม่ต้องการ Technician เมย์ก็เลยไปสมัคร ตอนนั้นมันเป็นการสมัครที่เราไม่ได้คาดหวังมากนะคะ เพราะว่าเรียนจบไม่สูง มีแต่ Portfolio แล้วเขาก็ถามถึงผลงานกับประสบการณ์ แต่มีอยู่คำถามหนึ่งที่ถามว่า “ถ้ามีคนในออฟฟิสถามหรือพูดเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของเราจะรู้สึกยังไง” เมย์บอกไปเลยว่า “ไม่รู้สึกยังไง เพราะคนที่จบสูงกว่าทำงานสไตล์ที่เมย์ทำไม่ได้” นั้นคือจุดแรกที่ก้าวมาเป็น Technician อย่างเต็มตัว
HW+ : เปิดร้าน McoutureStudio81?
McoutureStudio81 เพิ่งเปิดเมื่อตุลาคม ปี 2560 ค่ะ เนื่องจากว่าทำงานในกรุงเทพฯ นานแล้วเริ่มเบื่อชีวิตในเมืองกรุงเนอะ (หัวเราะ) เลยเปิดร้านเพื่อที่จะปลดปล่อยความเป็นตัวเอง ได้ระบายจินตนาการต่างๆ ที่มีอยู่ในตัว สำหรับคนที่ชอบสไตล์การทำสีผมจัดจ้าน ชอบทรงผมแปลกๆ หรือว่าคนที่คิดไม่ออกว่าฉันจะทำทรงไหนสวยนะคะ โทรหาเมย์เลยคะ
“เวลาเข้าไปนั่งอบรมก็จะมี Technician ยืนอยู่แล้วเราเข้าไปนั่งเรียนมันก็เหมือนกับจุดประกาย คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นคนที่ไปยืนอยู่ตรงนั้นให้ได้”
HW+ : ก้าวเข้าสู่เวทีโลก?
พอเป็น Technician ก็ได้เจอ International Trainer และแฮร์สไตร์ลิสระดับโลกเลยอยากเป็นเหมือนกับเขาเราก็พยายามจนสอบได้เป็น National Master Trainer จนต่อมาได้ไปเรียนทำสีกับ Colorist เขาก็แนะนำให้ลงประกวด ถึงจะลังเลแต่ก็จุดประกายอีก คิดว่าเราจะต้องไปยืนตรงนั้นให้ได้ซักวัน เดือนกันยายนที่จะถึงนี้ก็มีแพลนจะไปโชว์ผลงานที่ฝรั่งเศสค่ะ
HW+ : มุมมองแฟชั่นเปลี่ยนไปยังไง?
ถ้าเปรียบเทียบระหว่างมุมมองแฟชั่นของตัวเราในอดีตกับในปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเยอะนะคะ เมื่อก่อนมันจะเป็นอะไรที่เลือนราง จะต้องทำตามเทรนด์ เสื้อผ้าก็ต้องเป็นลุคนี้ ผมก็ต้องทำสีนี้ ต้องแต่งหน้าแบบนี้ แต่ ณ ปัจจุบันนี้มันไม่ใช่แค่นั้นสำหรับเมย์ คือว่าเราต้องดึงจุดเด่นของแต่ละบุคคลออกมาแล้วสร้างจุดเด่นของเขาตรง ให้เปล่งประกายมากขึ้น นั่นแหละคือสไตล์
HW+ : ส่วนตัวชอบสไตล์ไหน?
ชอบสไตล์ที่จะว่าดูไม่เยอะมันก็เยอะอยู่นะบางที ชอบอะไรที่คลาสสิค ชอบเสื้อผ้าคัตติ้งแปลกๆ แต่ก็ยังดูคลาสสิคอยู่นะอย่างมีลูกเล่น มี Jewelry หรือ Accesory บางส่วนที่มันดูตัดกันผ้าหน่อย แต่โดยรวมแล้วมันก็ต้องเป็นตัวเราคะ ถ้าเสื้อผ้าที่ชอบใส่ก็พวกสีขาว-ดำ และเพิ่มกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ลายมาผสมบ้างได้ หรือไม่ก็แบรนด์ Yohji Yamamoto ประมาณนี้
HW+ : นอกจากเสื้อผ้าแล้วยังชอบเมคอัพ?
เรื่องเมคอัพอันนี้สำคัญนะคะ เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไร แล้วพอเราเป็น Technician เนี่ย คนทั้งห้องจะมองเราหมดเลย เลยคิดว่าต้องหาอะไรที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง ก็หยิบลิปสติกสีแดงขึ้นมาทา รวบผมตึง ใส่ชุดดำ หลังจากนั้นก็ทำแบบนั้นตลอดจนกลายเป็นจุดขายของตัวเอง เวลาที่คนเห็นเราเขาก็จะบอกว่าฉันจำเธอได้ ทำให้เราดูมีพลัง
HW+ : มีไอดอลมั้ย, อะไรที่อยากมีเหมือนไอดอล?
คุณ Vidal Sasson แต่เขาเสียชีวิตแล้วนะคะ ชอบเพราะเรื่องราว คือเขาเป็นคนที่ทำผมตั้งแต่อายุน้อยๆ ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยความลำบาก แต่ก็เป็นคนที่ Creative มากเช่นกัน เรียกว่าทำผมให้ใครคนนั้นจะต้องสวย…อยากได้สายตาของเขา เพราะว่าเขาสามารถมองลุคของคุณแล้วตีโจทย์แตก คลาสสิค สวย
HW+ : ผลงานที่ประทับใจ?
เป็นเคสลูกค้าที่ประทับใจมากกว่า ลูกค้าอายุ 60 กว่าๆ อยู่กรุงเทพแล้วบินไปหาเมย์ที่เชียงใหม่ เพื่อให้เราเปลี่ยนลุคให้ โดยที่เขาทำผมดำมาตลอดเขา ไม่เคยทำผมสีอื่นเลย เพราะมีผมขาว เมย์เลยเปลี่ยนลุคให้ ฟอกทั้งหมด ทำไฮไลท์ชมพู-ม่วง ซึ่งเขาชอบมาก อันนี้ภูมิใจมากค่ะ
HW+ : เวลาว่างนอกเหนือจากการทำงาน?
ตื่นเช้าค่ะ นั่งดื่มชาร้อนหรือกาแฟแล้วไปทำโยคะ เป็นกิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุขมากที่สุด
HW+ : สถานที่ท่องเที่ยว?
ชอบต่างประเทศค่ะ อย่างวันหยุดยาวถ้าเวลาเราได้มีโอกาสไปก็จะไปเดินดูทุกซอก ทุกซอย ทุกมุม ดูวัฒนธรรมของเขา แล้วก็ไปดูศิลปะแบบเสพศิลป์ เก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน อย่างอิตาลีที่จะไปก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ เป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ไปทีหนึ่งก็กระเป๋าแบะทุกทีเนอะ จะต้องเก็บเงินเยอะๆ นะคะ (หัวเราะ)
HW+ : ของสะสม?
น้องหมีค่ะ เป็นลูกๆ ของเมย์เอง สะสมมานาน 10 กว่าปีได้แล้ว คือเราเป็นคนชอบเที่ยวแล้วก็สามีเขาแฟนพันธ์แท้ของ Hardrock Café พอไปแต่ละประเทศเราก็จะเข้าไป Hardrock Café ของแต่ละเมือง จะมี Costume ที่แตกต่างกัน ดูน่ารักดี แล้วก็เหมือนกับเป็นความทรงจำให้เราเก็บว่าได้ไปเมืองนั้นมาแล้ว แต่บางตัวก็เพื่อนซื้อมาฝากนะคะ
HW+ : ของรักของหวง?
น้องหมีเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ใช่ของ Hardrock Café นะคะ เจ้าตัวนี้เป็นตุ๊กตาธรรมดาตั้งชื่อว่า “มัฟฟิน” เพราะสีเหมือนขนมมัฟฟิน เป็นหมีที่ต้องพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา 10 กว่าปีแล้ว เพราะว่าสามีซื้อให้ นอนกับมัฟฟินทุกคืน เป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับเมย์ด้วย อิตาลี ฮ่องกง นู่นนี่นั่น เป็น Buddy
- แก๊งน้องหมี Hardrock Café ของสะสมจากประเทศต่างๆ
- เจ้าหมี “มัฟฟิน” สุดรัก เคยหายไปครั้งหนึ่ง ตอนไป Genting, สิงคโปร์ ถึงกับต้องเหมาแท็กซี่กลับไปรับ
HW+ : มุมมองต่ออาชีพช่างผม?
เป็นอาชีพที่สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กยันแก่เลยค่ะ ถ้ายืนไหวก็ทำไป (หัวเราะ) ช่างผมเป็นอาชีพที่สนุก มีเกียรติ คุณต้องทำบนศีรษะของคน สามารถสร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขให้กับคนอื่นและตัวเองได้ค่ะ
เส้นทางสู่อาชีพช่างผมไปจนถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเธอคนนี้ไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยคะ เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยมุมมองแห่งแรงบันดาลใจของความรักที่มีให้แก่คู่ชีวิตจนผลักดันเข้ามาสู่วิชาชีพช่างผม แถมทัศนคติและความไม่ย่อท้อก็ส่งผลให้เธอคนนี้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นนักสู้คนหนึ่งที่น่าชื่นชม ตลอดการสนทนาเราสัมผัสได้ถึงพลังงานและความสดใสร่าเริงพร้อมแนวคิดแง่บวก จึงสรุปได้เลยว่า คุณเมย์-สยุมพร สิงห์ทอง คือช่างผมที่ครบเครื่องจริงๆ