จากกระแสข่าวที่มีการจับกุมร้านทำผมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่เปิดให้บริการโดยชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการเปิดร้านที่ ผิดพรก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 เนื่องจากอาชีพช่างทำผมนั้นเป็นอาชีพสงวนของประเทศไทย ซึ่งอาชีพช่างตัดผมและช่างดัดผมนั้นถูกนับรวมอยู่ในพระราชกำหนดอาชีพสงวน 27 อาชีพ ในปีพ.ศ2485 ก่อนจะมีประกาศเพิ่มเป็น 39 อาชีพ สงวน และเพิ่มคำว่า งานเสริมสวย เข้ามาในพ.ศ. 2522 และปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
จากเหตุการณ์การบุกจับกุมร้านทำผมของชาวต่างชาติดังกล่าว อาจสร้างความสงสัยและคำถามขึ้นมากมาย วันนี้ทีมงาน Hairworld+ จึงได้เชิญ ดร.ทศพร นพวิชัย (ดร.ติ่ง) เจ้าของร้าน Venus Hair Team, อุปนายกสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย และนักเขียนกิตติมศักดิ์ของ Hairworld+ ผู้ที่ได้รับการยอมรับในการทุ่มเททำงานวิเคราะห์และวิจัยปัจจัยเชิงบริบทของอาชีพช่างเสริมสวยภายใต้กฎหมายอาชีพสงวนในระดับปริญญาเอก และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถไขข้อข้องใจต่างๆ ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้กัน
คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น?
อย่างที่เราได้เห็นกันไปว่ามีต่างชาติมาประกอบอาชีพที่เป็นงานห้ามตาม พรก.ของกระทรวงแรงงานมาตั้งนานแล้ว ซึ่งก็มีการจับกุมมาบ้างแล้วในอดีต พอดีมาช่วงนี้มีการตรวจเกี่ยวกับการตรวจสุขอนามัยด้วย ซึ่งก็เป็นจังหวะพอดีกับที่เข้าไปจับ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะครับ เพราะทุกประเทศมีกฎหมายเรื่องนี้อยู่แล้ว และคนที่จะเข้ามาอยู่ในประเทศก็ต้องเคารพกฎหมาย ครั้งนี้ก็เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้กฎหมายตามอำนาจและขอบเขตที่เขามีอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ในเรื่องของการสงวนอาชีพ มีทุกประเทศทั่วโลก แต่ละประเทศเขาก็มีหมด มีเหตุผลและความจำเป็นในการสงวนอาชีพที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะอิงเรื่องความมั่นคง ความปลอดภัย ศิลปวัฒนธรรม และความสามารถในการแข่งขัน เราอาจจะมองว่าประเด็นนี้เล็ก แต่จริงๆ แล้วการที่คนต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพหรือเข้ามาอยู่โดยผิดกฎหมายนั้น ส่งผลกระทบหลายมิติไม่ว่าจะเป็น
1.การเมือง 2. เศรษฐกิจ 3. สังคม 4. สาธารณสุข ซึ่งทุกอันมีผลกระทบต่อคนในประเทศจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่อาชีพช่างผมเท่านั้นที่เราเห็นมีปัญหา ยังมีอีกหลายอาชีพ จะเห็นได้ว่าในสังคมมีการใช้คนไทยเป็นนอมินีอยู่อย่างหลากหลายอาชีพ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า ประเทศไทยเราเป็นเมืองที่น่าอยู่ อุดมสมบูรณ์ มีความปลอดภัย คนไทยมีนํ้าใจ
จึงเป็นแรงดึงดูดให้คนต่างชาติเข้ามาอยู่เยอะ ชาวต่างด้าวก็หนีสิ่งที่แร้นแค้นและความลำบากอพยพกันเข้ามา ไม่มีคนไหนหรอก ที่อยู่ในที่สบายๆ แล้วจะหนีเข้ามาเพื่อประกอบอาชีพต่างบ้านต่างเมือง ทุกคนก็ต้องมีเหตุผลของเขา ในขณะเดียวกันประเทศไทยก็มีความจำเป็นที่ต้องปกป้องอาชีพ วิถีของคนไทยเอาไว้ด้วย เพราะปัจจุบันไม่ใช่ว่าช่างทำผมขาดแคลน จริงๆ แล้วช่างผมไม่ได้ขาดแคลน เห็นได้จากเสียงสะท้อนของช่างผมในเรื่องของการไม่มีลูกค้าบ้าง เศรษฐกิจไม่ดีบ้าง เปิดร้านแล้วคนแย่งกันทำเยอะแยะ ขนาดคนไทยยังแย่งกันทำ แล้วเราจะไปเปิดให้คนอื่นเข้ามาทำไม? เรื่องมนุษยธรรมหรือเรื่องความสงสารมันก็มี ก็เหมือนอย่างคนไทยที่ลักลอบทำงานต่างประเทศ ทําผิดกฎหมายเขาก็โดนจับกลับมา ก็เหมือนกัน เมื่อเขามีกฎหมายเราก็ต้องเคารพกฎหมาย ไม่งั้นจะมีกฎหมายไว้ทำเพื่อ? ต้องแยกกันระหว่างความมนุษยธรรมกับความถูกต้อง
ช่างทำผมที่ออกมาร้องเรียนหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ ก็คือ ช่างทำผมที่ถูกลิดรอนสิทธิ์ ถูกกระทบกระเทือนสิทธิ์ ถูกแย่งงาน คนแจ้งก็เป็นช่างทำผมในวงการนั่นแหละ เพราะเป็นผู้เดือดร้อนโดยตรง ได้รับผลกระทบ เมื่อมีกฎหมายทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมาย และก็ต้องทำให้มันถูกต้อง เพราะถ้าพูดถึงความน่าสงสารทุกคนน่าสงสารหมดในโลกนี้ ไม่มีใครไม่น่าสงสารหรอก
ช่างผมต่างชาติไม่มีสิทธิ์ทำอาชีพนี้ได้เลยใช่หรือไม่?
ต่างชาติจะไม่มีสิทธิ์ทำอาชีพนี้เลย แม้กระทั่งเขาแต่งงานกับคนไทยก็ทำไม่ได้ เพราะ เขาไม่มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประชาชน เขาไม่สามารถจะทำได้ การเป็นช่างทำผมต้องยึดหลักนี้เลยคือ ต้องเป็นคนที่มีสัญชาติไทย จะด้วยวิธีไหนไม่รู้ โดยกำเนิด โดยการเปลี่ยนแปลง แต่ตราบใดที่ไม่ได้เป็นคนที่มีสัญชาติไทย คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอาชีพห้ามได้
ถ้าเจ้าของร้านเป็นคนไทย สามารถจ้างช่างชาวต่างชาติมาเป็นช่างในร้านได้หรือไม่?
ช่างทำผมจะเป็นคนต่างชาติไม่ได้เลย หรือจะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเกิดในประเทศไทย แต่อยู่ในระหว่างการรอสัญชาติไทย ซึ่งคนกลุ่มนั้นจะมีบัตรแสดงตนต่างด้าวที่ขึ้นต้นด้วยเลข 0 จะเป็นเอกสารเฉพาะของเขา ซึ่งตามประกาศของกระทรวงเขาอนุโลมให้ประกอบอาชีพได้ เพราะคนเหล่านี้เขาเกิดที่ประเทศไทย เขาไม่มีหนทางไปที่ไหน เพราะไม่มีเอกสารที่จะแสดงตนว่าเป็นคนสัญชาติไหน แต่พวกเขาเกิดที่ประเทศไทยจึงอยู่ในข้อยกเว้น แต่ไม่ใช่ประเภทที่ลักลอบเข้ามา โดยมีพาสปอร์ต หรือลักลอบหนีโดยไม่ใช้พาสปอร์ตเนี่ยไม่ได้ คนละประเด็นกันเพราะงั้นต้องแยกให้ออก
คนกลุ่มที่อยู่ระหว่างการขอสัญชาติไทยและมีเอกสารรับรองบุคคลนี้ สามารถทำอาชีพช่างผมได้ แต่ก็ไม่สามารถเปิดร้าน หรือเป็นเจ้าของร้านได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นเฉพาะกลุ่มคนที่ได้รับการอนุญาตเช่น ชาวม้ง ชาวเขา คนที่เกิดบริเวณชายขอบ ไม่สามารถพิสูจน์สัญชาติได้ โดยสมัยก่อนประกอบอาชีพได้แค่ 27 อาชีพ ภายหลังได้รับอนุญาตให้ทําได้มากประเภทขึ้น เพราะเขามีผู้หญิงมีเด็ก ซึ่งบางอาชีพเป็นงานที่ใช้แรงงาน และเป็นคนละประเด็นกับพวกที่เอาแรงงานต่างด้าวเข้ามาแล้วมาหาผลประโยชน์ มันคนละเรื่องกับกลุ่มที่ได้รับอนุญาต การอนุญาตให้ทำเป็นเรื่องของมนุษยธรรมจริงๆ เพราะพวกเขาเกิดในเมืองไทยจริงๆ พ่อแม่หนีสงครามมา แล้วมาอยู่ตามตะเข็บชายแดนที่ประกอบอาชีพลำบาก
ช่างผมต่างชาติสามารถร่วมหุ้นเปิดร้านเสริมสวยได้หรือไม่?
ต้องแยกระหว่างการทำงานกับการทำธุรกิจ การทำงาน เรื่องของแรงงานคนขึ้นอยู่กับกระทรวงแรงงาน ส่วนเรื่องของการทำธุรกิจขึ้นอยู่กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมี พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จะมีบัญชี ห้ามอยู่ 3 บัญชี ของเราจะอยู่ในบัญชีที่ 3 คือ การห้ามแบบมีเงื่อนไข แต่ที่ผ่านมาจากที่เคยสอบถามทางกระทรวงพาณิชย์ ยังไม่เคยมีการจดบันทึกไว้ว่ามีคนมาขออนุญาตไหม แต่ที่ทราบคือยังไม่เคยอนุญาตให้ใครเปิด เพราะมันอยู่ในธุรกิจบริการที่ห้ามอยู่ การจะทำธุรกิจต้องติดต่อผ่านทางกรม หรือ กระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาต
อ้างอิงจากการที่ได้เคยสัมภาษณ์บุคคลในกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในการทำวิจัย มันมีกฎหมายตัวนึงที่เขาใช้กันอยู่ ในการอนุญาตให้ทําธุรกิจคือกฎหมาย Non-Tariff Measures ซึ่งทั่วโลกเขาก็จะมานั่งดูว่า ธุรกิจไหนที่อนุญาตแล้วคนในประเทศพร้อมจะแข่งขัน หรือยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดหรือไม่ ถ้ายังเขาก็จะไม่อนุญาต ทุกประเทศเขาทำแบบนี้หมด ในเมื่อทุกคนต้องการความถูกต้อง ทุกคนต้องการความยุติธรรม แต่ทุกคนไม่ปฏิบัติตาม สังคมถึงได้เป็นแบบนี้ ทุกคนก็จะเอาแบบที่ตัวเองต้องการเป็นหลัก ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง มันถึงได้มีปัญหา อยากให้มองภาพกว้างว่าคนในประเทศเราจะเดือดร้อนหรือมีปัญหาขนาดไหน อย่าคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก
เรื่องที่ไม่เป็นอะไรเลยเนี่ยทำให้ชาติล่มจมมาเยอะแยะ การเปลี่ยนแปลงอะไรก็แล้วแต่มันจะเปลี่ยนทีละเล็ก แล้วสุดท้ายมันพลิกเลย
อยากฝากอะไรถึงเจ้าของร้านและผู้ใช้บริการ?
ช่างทำผมคนไทยก็มีฝีมือ และก็ไม่ได้ขาดแคลน ซึ่งช่างผมคนไทยก็เก่งไม่น้อยไปกว่าประเทศไหนๆ เพียงแต่บางทีมันเป็นกระแสนิยมว่าต้องไปตัดเป็นเทรนด์นี้ ซึ่งจริงๆ ช่างคนไทยก็ทำได้ เคยสังเกตไหมว่าช่างคนไทยก็ตัดตามที่เขากำลังนิยมกันได้ทุกๆ แบบ เพียงแต่ว่าบางคนเขาก็อยากตัดแบบออริจินอลจริงๆ ซึ่งบางคนเขาก็บินไปตัดที่ประเทศนั้นเลย แต่ถ้าเกิดว่ามาอยู่ตรงนี้เนี่ยก็อยากให้ช่วยเคารพกฎหมาย ยึดถือว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชาติ ซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกันในการที่จะมีอาชีพต่อไป คุณไม่คิดถึงอนาคตลูกหลานหรอว่าจะอยู่กันยังไง
แจ้งเบาะแส / เมื่อพบการกระทำผิด สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน