ค้นหาคำตอบ…ทำไมเป็นโรคมะเร็งแล้ว จึงทำให้ผมร่วง?

อาการผมร่วงและโรคมะเร็ง เป็นภาพความสัมพันธ์ที่เราเห็นได้บ่อยครั้งสำหรับผู้ป่วยโรคนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วกว่าที่ผู้ป่วยคนหนึ่งจะเกิดอาการแบบนี้ได้นั้นมักจะตามมาหลายสัปดาห์หลังจากเริ่มต้นรักษาด้วยเคมีบำบัด จริง ๆ แล้วสาเหตุเกิดจากอะไรกัน ทำไมถึงได้สร้างผลลัพธ์แบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยชายหรือหญิงก็คงเสียกำลังใจไม่น้อยเมื่อเห็นสภาพที่เปลี่ยนไปของตนเอง

“อาการผมร่วงเกิดจากเคมีบำบัด…และทำให้ผู้ป่วยหลายคนเป็นกังวล”

เพราะอะไรการทำเคมีบำบัดจึงทำให้ผมร่วง?

เนื่องจากตัวยาที่ใช้ในการทำเคมีบำบัด หรือ การทำคีโม ที่เราเรียกกัน…มีคุณสมบัติในการต่อสู้กับเซลล์ร้ายของโรคมะเร็งโดยเฉพาะ ซึ่งเซลล์มะเร็งนี้มีประสิทธิภาพในการเติบโตที่รวดเร็วและสูงมาก ดังนั้นตัวยาคีโมก็ต้องมีประสิทธิภาพที่สูงและมุ่งตรงเข้าทำลายเซลล์มะเร็งอย่างทันทีเช่นเดียวกัน ส่งผลให้เซลล์รอบนอกสุดของร่างกายที่มีอัตราการเติบโตสูง อาทิ เซลล์รากผม และ เซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งนี้เพราะยาคีโมเพียงบางชนิดเท่านั้นที่สามรถเจาะจงเข้าสู่เซลล์มะเร็งโดยตรง ในขณะที่บางชนิดจะยับยั้งเซลล์ที่มีอัตราการเติบโตสูงแบบโดยรวม

ผมจะร่วงหลังจากการทำเคมีบำบัดแค่ไหน?

โดยปกติแล้วผู้ที่เข้ารับการทำคีโมจะเริ่มมีอาการผมร่วงหลังจากทำประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยผิวหนังศีรษะจะเริ่มแห้งลงก่อน ซึ่งทำให้จุดที่ร่วงในระยะแรกมักจะเป็นบริเวณกลางกระหม่อม และ ช่วงเหนือกกหู บางรายอาจเห็นเส้นผมเบาบางลง เห็นความเปลี่ยนแปลงของทรงผมที่เปลี่ยนไปแตกต่างกัน นอกจากผมแล้ว ยาคีโม อาจส่งผลต่อขนบริเวณอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน เช่น ขนตา ขนคิ้ว รวมถึงตำแหน่งเส้นขนต่าง ๆ ในร่างกาย

จะต้องผมร่วงอีกนานแค่ไหน?

อาการผมร่วงของผู้ป่วยจะขึ้นอยู่กับโปรแกรมการรักษา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการทำเคมีบำบัดมักจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 1-3 เดือน โดยหลังจากที่จบคอร์สการรักษาแล้วผู้ป่วยบางรายสามารถฟื้นตัวได้ในทันที แต่ในบางรายยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการขาดความมั่นใจตามมา สำหรับรายที่เป็นมะเร็งชนิดที่ยากแก่การรักษาให้หายขาดในเวลาอันสั้น แน่นอนว่าย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต การใช้ชีวิต และจิตใจที่หดหู่ก็จะย้อนกลับมาส่งผลกระทบต่อการรักษาเป็นวงจร

“รวมพลังช่างผมและคนรักผมมา…วิ่งเพื่อผม”